นี่คือตะกรุดสุดแฟชั่นแห่งยุค! คุยกับ Leila Amulets แบรนด์จิวเวลรียอดนิยมที่สายมูต้องมี!
วินาทีนี้คงไม่มีใครไม่รู้จัก LEILA AMULETS แบรนด์จิวเวลรีน้องใหม่ที่นำเหล่าเครื่องรางจากวัดดังทั่วสารทิศมาปรับเปลี่ยนเซ็ตติ้งให้ดูร่วมสมัยขึ้น จนเป็นที่ถูกอกถูกใจชาวแฟชั่น (สายมู) ไปจนถึงหนุ่มสาวยุคใหม่ที่อยากมีความปังไว้กับตัว อยู่ที่ว่าคุณต้องการเสริมเรื่องไหนในชีวิต การงาน ความรัก ชื่อเสียง เงินทอง หรือแม้กระทั่งการคุ้มครองให้อยู่รอดปลอดภัย อย่างที่รู้กันว่าประเทศไทยอยู่คู่กับความเชื่อในสิ่งศักดิ์สิทธิ์และเครื่องรางของขลังมาตั้งแต่อดีต ขอให้นึกย้อนไปสมัยเด็ก ว่าเรามักถูกผู้ใหญ่จับให้ห้อยพระ ไม่ก็ผูกสายสิญจน์เพื่อความโชคดี (เรื่องนี้เป็นความเชื่อส่วนบุคคลที่เราขอละไว้ในฐานที่เข้าใจ)
แต่พอเราเติบโตขึ้น…ด้วยค่านิยมที่หล่อหลอมให้คนรุ่นใหม่ “กลัวเชย” หรือความคิดที่ว่า “ของขลังจากวัดมีไว้สำหรับคนแก่เท่านั้น” จึงเป็นเรื่องน่าเสียดาย ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านี้คือ Lucky Charm ของดีแห่งแดนสยามที่มีความเก๋แบบไทยๆ ซ่อนอยู่ และไลลาก็คือแบรนด์ที่เห็นตรงกับเราในจุดนั้น นี่จึงนับเป็นการปฏิวัติวงการเครื่องประดับและพระเครื่องที่ดึงความเชื่อแต่โบราณของคนไทยมาจับคู่กับความเป็นแฟชั่นได้อย่างน่าตื่นเต้น แวบแรกที่เราเห็นเบี้ยแก้พญาเสือโคร่งทำให้ฉุกคิดถึงกลิ่นอายความเป็น Gucci ขึ้นมาทันที! ไหนจะเหล่าตะกรุดหลากสี ที่ก่อนนี้ไม่ค่อยมีใครกล้าใส่ ก็ถูกนำมาใส่กรอบและประดับเข้ากับลูกปัดหินสุดคูล ไลลาอมูเลตได้สร้างนิยามใหม่ให้กับเครื่องรางของขลัง ทลายกำแพงความเขินอายของคนรุ่นใหม่ที่ไม่กล้าใส่สิ่งเหล่านี้ได้สำเร็จเกินคาด
วันนี้จึงไม่รีรอ ที่จะสอบถามถึงที่มาที่ไปและไอเดียตั้งแต่แรกเริ่มของไลลาอมูเลตจาก จัน – จันทรา จันทร์พิทักษ์ชัย จิวเวลรีดีไซเนอร์สาวสวยประจำแบรนด์
ความหมายของชื่อ “ไลลา” ?
J: ไลลา เป็นศัพท์โบราณที่มักใช้ในกลอนภาษาไทย แปลว่า ไป – มา เยื้องกราย หรือสิ่งที่เคลื่อนไหวได้ จันชอบความหมายของชื่อนี้เพราะมันให้ความรู้สึกกึ่งๆ Night of Beauty มีความลึกลับน่าค้นหา แต่ก็ไม่ได้โจ่งแจ้งจนเกินไป เหมาะกับตัวตนของเรา ประกอบกับความที่อยากทำคอนเซ็ปต์ให้คนไทยรุ่นใหม่เข้าใจความเป็นเครื่องรางของขลังที่ถูกต้อง เราจึงพยายามเซ็ตระบบใหม่ทั้งหมด ทำทุกอย่างให้โมเดิร์นขึ้น เหมือนเป็นการสืบสานวัฒนธรรมของบ้านเราไปในตัวค่ะ
ไอเดียและจุดเริ่มต้นของการใช้ของขลังมาจากไหน?
J: จริงๆ แบรนด์เราเริ่มต้นจากการขายหินมาก่อนค่ะ (OLVD) ซึ่งก็จะมีเรื่องความเชื่อเข้ามาเกี่ยวอยู่แล้ว แต่พอยุคเฟื่องฟูของหินได้ผ่านไป เราก็เริ่มมองไปที่ปัญหา และค้นพบว่าเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงมักชอบดูดวง ตั้งแต่สมัยที่ขายหิน เรามักจะมีลูกค้าต่างชาติ (ส่วนใหญ่จะเป็นคนจีนจากสิงค์โปร์ ฮ่องกง) เดินเข้ามาถามในร้านว่าทำไมถึงไม่มีให้เช่าครูบากฤษณะ ซึ่งตอนนั้นเราก็ไม่รู้จัก แต่ที่สิงคโปร์คือมีชื่อเสียงโด่งดังมากๆ คนต่างชาตินี่เขาเชื่อในเครื่องรางของไทยมากนะคะ ถึงกับจองทัวร์เพื่อตระเวนไปตามวัดต่างๆ สำหรับเหมาของดีเหล่านี้กลับบ้านโดยเฉพาะ เราเลยรู้สึกว่า…ความจริงแล้วของไทยเราก็มีดี ทั้งสวยทั้งเก๋ แถมดีเทลจัดจ้าน ก็เออ…ไหนลองทำดูแบบง่ายๆ ก่อนแล้วกัน
แต่ไลลาก็เลือกวิธีการนำเสนอออกมาได้เปรี้ยวเข็ดฟันเลยนะ?
J: ตอนที่เราให้เช่าหินหรือเช่าเหรียญในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็จะชอบเห็นคนใส่ทองห้าบาท สิบบาท เลยมีความคิดว่าเปลี่ยนได้มั้ย เราอยากเห็นวัยรุ่นใส่บ้าง ใส่ออกไปข้างนอกอย่างภาคภูมิใจ จริงๆ แล้วเรามองว่าของพวกนี้เป็นงานฝีมืออย่างหนึ่ง ทางร้านจะไม่เปลี่ยนแบบเลย แต่จะทำให้ใส่ได้ง่ายขึ้น เราออกแบบในแง่ของเซตติ้งด้วยความเคารพ เหมือนกับเป็นตัวกลางที่เชื่อมระหว่างของขลังและการใช้ชีวิตจิง ไม่ทำให้ดูงมงายหรือแฟชั่นจนเกินไป เพราทุกชิ้นจะมีความอาร์ตในตัวของเขาอยู่แล้ว เราไม่ต้องไปแตะอะไรมาก
แล้วรู้ได้ยังไงว่าของวัดไหนเด่น วัดไหนดัง?
J: ด้วยความที่คุณอาของจัน (คุณรัตนา จันทร์พิทักษ์ชัย) เป็นคนชอบทำบุญอยู่แล้ว คุณอาก็จะไปวัดอยู่บ่อยๆ และมีความรู้เรื่องนี้เป็นอย่างดี นี่จึงเป็นอีกจุดเริ่มต้นสำคัญของไลลาอมูเลต ส่วนวิธีการเลือกเราก็จะมาปรึกษากันว่ามีของชิ้นไหนบ้างที่น่าสนใจ จริงๆ แล้วของพวกนี้อยู่กับเรามาตั้งแต่เกิดโดยที่เราไม่รู้ตัวด้วยซ้ำไป เกิดมาก็ต้องไหว้ศาลพระภูมิ ไหว้เจ้าที่ มันคือสิ่งที่เราคุ้นชินและไม่ทันสังเกตว่าเราโดนซึมซับมานานจนกลายเป็นคัลเจอร์อย่างหนึ่ง
เรื่องเซอร์ไพรซ์ตั้งแต่เปิดแบรนด์มา?
J: เราพึ่งเปิดแบรนด์มาเมื่อตอนต้นปีนี้เองค่ะ แล้วฟีดแบคก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ส่วนใหญ่ผู้หญิงจะชอบซื้อเรื่องเสริมเสน่ห์ ผู้ชายก็ซื้อบ้างแต่ก็จะมีความเขินๆ นิดหน่อย บางทีเราก็จะได้รับข้อความรีวิวจากลูกค้าประมาณว่า ตั้งแต่ใส่ตะกรุดนี่สามีติดมากกกกก (หัวเราะ) หรือบางทีลูกค้าก็จะมาปรึกษาว่ามีปัญหาแบบนี้ๆ จะเลือกของชิ้นไหนดี อารมณ์เหมือนเราเป็นเพื่อนที่ให้คำปรึกษาและรับฟังลูกค้าไปในตัว
แล้วมันเวิร์กจริงไหม?
J: ต้องลองพิสูจน์ดูนะคะ…จันว่าบางทีสิ่งนี้อาจจะเป็นเพียงตัวเสริมที่คอยส่งพลังบวกให้กับใจเรา เหมือนที่เขาว่า หากใจเราเชื่อแบบไหน…ผลก็จะออกมาเป็นแบบนั้น จะเรียกว่าเป็นศิลปะที่เยียวยาจิตใจอย่างหนึ่งก็ไม่ผิด
สิ่งที่ท้าทายที่สุดสำหรับไลลาอมูเลต?
J: การออกแบบของจันตอนนี้ คือการครีเอทของที่มีอยู่แล้วให้น่าสนใจขึ้น อีกโจทย์ที่ท้าทายคือการเปลี่ยนของที่เชยให้ดูไม่เชย จับต้องง่าย เราจะทำยังไงให้คนสนใจในตะกรุดชิ้นนี้ ทำยังไงถึงจะสร้างสร้างความมั่นใจ สร้างความคิดที่เป็นบวก และลดความเคอะเขินให้กับผู้สวมใส่ อยากผลักดันคนไทยให้กล้าใส่โชว์ของดีจากประเทศเราด้วยความภูมิใจ
เครดิต: vouge.co.th/ Leila Amulets/ IG: @leila_amulets
21,459 , 4
