ชีวิตน่าสนใจของ น้องฉัตร กว่าจะเป็นช่างแต่งหน้าคิวทอง กับชีวิตจริงที่ไม่ได้สวยหรู
หากพูดถึงช่างแต่งหน้าดารา 1 ใน 5 ของประเทศไทยแล้วละก็ จะต้องมีชื่อของ “น้องฉัตร” หรือ “ฉัตรชัย เพียงอภิชาติ” อย่างแน่นอน เพราะทุกวันนี้เรียกได้ว่าโด่งดังมาก ๆ และดาราทั่วฟ้าเมืองไทยก็เคยผ่านฝีมือการแต่งหน้าของน้องฉัตรมาหมดแล้ว โดยเฉพาะลุคแต่งหน้าสไตล์หวาน ๆ ฉ่ำ ๆ บอกเลยว่าคนนี้แหละระดับเทพ ! และถ้าใครจะจองคิวแต่งหน้าแล้วละก็ งานนี้บอกเลยว่าคงต้องรอกันนานหน่อย เพราะตอนนี้คิวทองยาวข้ามปีกันเลยทีเดียว
แต่กว่าจะเป็นช่างแต่งหน้าดาราระดับประเทศอย่างทุกวันนี้ เส้นทางการเป็นเมคอัพอาร์ทิสต์ของ น้องฉัตร ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยจริง ๆ ซึ่งจะต้องผ่านอะไรมาบ้าง วันนี้เราจะพาไปรู้จักเรื่องราวของ น้องฉัตรให้มากขึ้นกันค่ะ
1. เป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน
น้องฉัตรเกิดในครอบครัวคนจีน เป็นลูกชายเพียงคนเดียวของบ้าน แต่ถึงแม้จะมีความเป็นสาวอยู่ในตัว ทางบ้านโดยเฉพาะคุณแม่ก็ไม่เคยห้าม แถมยังสนับสนุนให้ทำได้ทุกอย่างตามที่ใฝ่ฝัน โดยคุณแม่ขอเพียงอย่างเดียว ให้ลูกเป็นคนดีเท่านั้นพอ และด้วยความรักความสนับสนุนจากคุณแม่ตั้งแต่เด็ก ๆ จึงทำให้น้องฉัตรกลายเป็นคนที่มุ่งมั่นตั้งใจ หากจะทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุดตั้งแต่นั้นมา
2. เริ่มต้นจากการเป็นช่างทำผมราคา 10 บาท
น้องฉัตร มีความใฝ่ฝันว่าอยากจะเป็นช่างแต่งหน้ามาตั้งแต่เด็ก ๆ แต่ด้วยสมัยนั้นข้าวของเครื่องใช้ รวมถึงเครื่องสำอางที่ช่างแต่งหน้าต้องใช้มีราคาแพงมาก แต่ไปสมัครงานตามร้านเสริมสวยที่ไหนก็โดนปฏิเสธตลอด จึงทำให้คุณแม่เห็นใจและยอมปรับปรุงชั้นล่างของตัวบ้านเปิดเป็นร้านเสริมสวยเล็ก ๆ ให้ จากนั้นน้องฉัตรก็ได้เริ่มรับจ้างสระผม-ไดร์ผม ในราคาค่าจ้างหัวละเพียง 10 บาท ในช่วงเสาร์-อาทิตย์ จึงทำให้รู้จักทำงานและรู้คุณค่าของเงินมาตั้งแต่เด็ก ๆ
3. ทำงานเก็บเงิน จ่ายเงินเรียนเองตั้งแต่เด็ก
จากเด็กที่มีความมุ่งมั่นอยากจะเป็นช่างแต่งหน้า จึงทำให้เขาเริ่มทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วยตั้งแต่อายุเพียงแค่ 13 ปีเท่านั้น และตั้งแต่นั้นมาก็ทำงานเก็บเงินจ่ายเงินค่าเรียนเองตลอด จนช่วงฝึกงานได้เข้าไปทำงานในห้างที่เคาน์เตอร์เครื่องสำอางแบรนด์ดัง จึงทำให้ได้เห็นและเรียนรู้งานในวงการแฟชั่นมากขึ้น และตอนนั้นก็รู้จักกับช่างแต่งหน้ารุ่นพี่หลายคน เมื่อไหร่ที่งานล้นมือน้องฉัตรก็จะคอยไปช่วยตลอด จากนั้นก็เริ่มมีงานฟรีแลนซ์เยอะขึ้นเรื่อย ๆ แต่ด้วยความที่วงการนี้มีการแข่งขันกันสูง จึงทำให้น้องฉัตรยังไม่เป็นที่รู้จักของคนทั่วไปเท่าไรนัก
4. ผลงานแต่งหน้า-ทำผมเจ้าสาวครั้งแรก กับเงินค่าจ้างแค่ 700 บาท
หลังจากสั่งสมประสบการณ์การแต่งหน้าจากงานฟรีแลนซ์ด้วยการไปช่วยงานต่าง ๆ น้องฉัตรก็ได้เริ่มรับงานแต่งหน้าเจ้าสาว โดยผลงานเจ้าสาวคนแรกที่ได้ให้บริการแต่งหน้า-ทำผมนั้นได้รับเงินค่าจ้างเพียงราคา 700 บาทเท่านั้น ถึงแม้จะเป็นเงินเพียงน้อยนิด แต่สำหรับน้องฉัตรแล้วถือว่ามีค่ามาก ๆ เพราะมันเป็นสิ่งที่ช่วยจุดประกายทำให้มั่นใจที่จะกล้ารับงานแต่งหน้าเจ้าสาวเลยก็ว่าได้ และตั้งแต่นั้นมาก็เริ่มที่จะมีลูกค้าเข้ามาเรื่อย ๆ ทำให้น้องฉัตรได้เรียนรู้ ได้ฝึกฝีมือ ได้พัฒนาตัวเอง จนกลายเป็นช่างแต่งหน้ามือดีอย่างทุกวันนี้นั่นเอง
5. ชีวิตเปลี่ยนเพราะไปเมืองคานส์
จากช่างแต่งหน้าที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก ครั้งหนึ่งน้องฉัตรได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นในอินสตาแกรมส่วนตัวของดาราสาว หญิง รฐา ว่าอยากจะแต่งหน้าให้ และนั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นให้น้องฉัตรได้รู้จักกับ หญิง รฐา และเมื่อครั้งที่ หญิง รฐา ได้ไปเดินโชว์ตัวที่เทศกาลหนังเมืองคานส์ เมื่อปี 2013 จึงได้ชักชวนให้น้องฉัตรไปเป็นช่างแต่งหน้าให้ ตั้งแต่นั้นมาจึงทำให้มีคนเห็นความสามารถและฝีมือในการแต่งหน้าของ น้องฉัตร และเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้น้องฉัตรกลายเป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงโด่งดังในฐานะช่างแต่งหน้า เรียกได้ว่าเป็นจุดเปลี่ยนในชีวิตเลยก็ว่าได้
6. คนนี้แหละเจ้าของฉายา ช่างแต่งหน้าฝีแปรงมหัศจรรย์
การโด่งดังในฐานะช่างแต่งหน้ามืออาชีพไม่ได้มาเพราะโชคช่วยเท่านั้น แต่ด้วยความสามารถและประสบการณ์ที่สั่งสมมานานจึงทำให้ตอนนี้น้องฉัตรกลายเป็นช่างแต่งหน้าที่ใคร ๆ ก็อยากแต่งด้วยมากที่สุดคนหนึ่ง เรียกได้ว่าคิวทองมาก ๆ บางคนถึงกับต้องจองคิวข้ามปีกันเลยทีเดียว และด้วยฝีมือระดับเทพนี้ จึงทำให้น้องฉัตรไม่ได้มีชื่อเสียงแค่ในไทยเท่านั้น แต่ยังโด่งดังไปทั่วเอเชีย แถมไม่ว่าจะเป็นใคร รูปหน้าแบบไหน น้องฉัตรก็สามารถเนรมิตลุคออกมาให้สวยปังได้ทุกราย และด้วยเหตุผลนี้เอง ใคร ๆ จึงตั้งฉายาให้น้องฉัตรว่าเป็น “ช่างแต่งหน้าฝีแปรงมหัศจรรย์”
จากช่างแต่งหน้า-ทำผมค่าจ้างแค่ 10 บาท มาเป็น Top 5 ช่างแต่งหน้ามือฉมังของเมืองไทยค่าตัวหลักแสนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สุดท้ายแล้วด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจ จะทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุด อย่างที่คุณแม่ของน้องฉัตรเคยสอนไว้ จึงทำให้ประสบความสำเร็จอย่างทุกววันนี้ เรียกได้ว่าเป็นคนที่น่าชื่นชม อีกทั้งยังน่ายกย่องให้เป็นต้นแบบที่ดีของคนที่มีฝันจริง ๆ เชียว
เครดิต: kapook.com
17,802 , 6