ธรรมดาโลกไม่จำ “โคโค่ ชาเนล” จากขบถแฟชั่น สู่ตำนานไม่มีวันตาย
ทำไมแบรนด์ “CHANEL” ถึงเป็นอมตะเหนือกาลเวลา และยังคงเป็นที่ใฝ่ฝันอยากครอบครองของหนุ่มสาวทั่วทุกมุมโลก ทั้งๆที่คนให้กำเนิดได้จากโลกนี้ไปเกือบ 5 ทศวรรษแล้ว เรื่องราวความลำเค็ญของ “โคโค่ ชาเนล” ที่พลิกผันจากเด็กกำพร้าจนกลายเป็นสตรีนักบุกเบิกคือตำนานยิ่งใหญ่ที่สุดบทหนึ่ง ไม่ใช่แค่สไตล์เสื้อผ้าเรียบหรู แต่สิ่งที่เธอทำคือการพลิกความหมายคำว่า “แฟชั่น” โดยเขียนกฎขึ้นเอง เพื่อสร้างนิยามบทใหม่ให้แฟชั่นชั้นสูงที่เต็มไปด้วยความเรียบง่าย เป็นอิสระ ทว่าทรงพลัง

“กาเบรียล ชาเนล” ได้ใช้ชีวิตในแบบที่ตั้งใจ ความยากลำบากในวัยเด็กและความสำเร็จในฐานะนักธุรกิจหญิง สร้างความโดดเด่นให้เธออย่างกล้าหาญเป็นอิสระ ขณะที่ความเป็นคนนำสมัย, มิตรภาพที่ซื่อสัตย์ และเรื่องรักๆใคร่ๆ ตลอดจนความกระหายในวัฒนธรรม และการเดินทาง ช่วยหล่อหลอมบุคลิกภาพเธอ ตู้เสื้อผ้าที่เป็นอิสระจากข้อจำกัดเดิมๆ และความหรูหราที่ได้รับการปรับแต่งด้วยการขับเน้นรายละเอียดแบบมาสคิวลีน สร้างเสน่ห์แห่งจินตนาการที่ไร้กาลเวลาและยังดูล้ำสมัย

“กาเบรียล” เป็นขบถแฟชั่นมาแต่ไหนแต่ไร เธอมักปรากฏกายในชุดกางเกงขายาวและเสื้อกะลาสี พร้อมผมสั้นไม่เหมือนใคร ในขณะที่เหล่าสุภาพสตรียังกรุยกรายฟูฟ่องอยู่ในงานเต้นรำชั้นสูง “โคโค่” กลับชื่นชอบกีฬากลางแจ้ง เธอสนุกกับการตีกอล์ฟ, เล่นสกี, แล่นเรือยอชต์, ตกปลา และแน่นอนว่าการขี่ม้าเป็นความหลงใหลของเธอ โดยมีจุดเริ่มต้นจากหนุ่มคนรักคนแรก
“เอเตียง บัลซอน” เศรษฐีทายาทธุรกิจอุตสาหกรรมสิ่งทอ ผู้ชักนำเข้าสู่วงการไฮโซ ทำให้ “โคโค่” มี โอกาสดีไซน์หมวกให้เหล่าชนชั้นสูง ก่อนจะโผเข้าสู่อ้อมกอดของ “บอย ชาเพล” ชายจากตระกูล ผู้ดีเก่าอังกฤษ ซึ่งเป็นป๋าดันให้เกิดแบรนด์ชาเนล โดยเงินทุนก้อนแรกของเขาพลิกชีวิตเด็กกำพร้าให้กลายเป็นเจ้าของร้านหมวกสุดหรูแห่งยุค “Chanel Modes” ซึ่งแจ้งเกิดสุดๆเมื่อนักแสดงสาวชื่อดัง “กาเบรียล ดอร์เซียต” สวมใส่ออกงาน

เธอไม่ได้มีพรสวรรค์เฉพาะเรื่องดีไซน์ แต่ยังเป็นนักธุรกิจหญิงน่าเกรงขามคนแรก ที่สร้างบริษัทอย่างอิสระและเป็นสากลด้วยสัญชาตญาณเฉียบคม หลังบูติกหมวกแห่งแรกเปิดให้บริการในปี 1910 ดึงดูดผู้คนจากทั่วกรุงปารีส ด้วยสัญชาตญาณที่สัมผัสได้ถึงความฮิปของเมืองตากอากาศริมทะเล “โคโค่” ก็ลุย เปิดบูติกแห่งที่สองทันทีในเมืองโดวิลล์ และขยายสาขาไปเปิดที่เมืองบิอาร์ริตซ์ พร้อมสร้างสรรค์น้ำหอมในตำนานอย่าง N°5 ในปี 1921 พลิกรหัสวงการน้ำหอมด้วยกลิ่นและดีไซน์ขวดแสนประณีต ตามด้วยการเปิดตัวคอลเลกชันเครื่องประดับชั้นเลิศ “Bijoux de Diamants” ในปี 1932 สร้างความเปลี่ยนแปลงให้โลกอันจำเจ
เธอไม่ยอมถูกกักขังความคิดหรือโอนอ่อนตามแนวคิดของบุรุษ “กาเบรียล” ใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างอิสระมากพอๆกับการสร้างธุรกิจด้วยลำแข้งตัวเอง แม้จะได้รับการสนับสนุนทางการเงินจาก “บอย ชาเพล” ในช่วงแรกที่เปิดร้านหมวก แต่มาดมัวแซลก็จ่ายเงินคืนให้เขาทุกบาททุกสตางค์ มันเป็นทั้งหลักการ เช่นเดียวกับสัญชาตญาณในการใช้ชีวิตที่จะไม่พึ่งพาใคร เธอกลายเป็นเจ้าของวิลล่า Bel Respiro ใน Garches ใกล้กรุงปารีสและสร้างวิลล่า La Pausa ที่โรกบรูน กัป มาร์แต็ง ในริเวียร่า พร้อมกับเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์สุดหรู ณ อาคารเลขที่ 31 บนถนนกัมบง กรุงปารีส ซึ่งกลายเป็นสัญลักษณ์มาถึงปัจจุบัน
“ฉันเหมือนปากปล่องภูเขาไฟในแคว้นโอแวร์ญที่ยังดับไม่สนิทและรอวันปะทุ” นี่คือตัวตนของ “กาเบรียล ชาเนล” นักสู้หญิงแห่งวงการแฟชั่นโลก.







source: thairath
806 , 3