ชีวิตตอนเด็กๆ เป็นยังไงบ้างคะ?
ตอนเด็กๆ ลำบากค่ะ เพราะคุณพ่อคุณแม่ทำงานก่อสร้าง แล้วตัวเองก็เป็นลูกคนงานก่อสร้างซึ่งคุณพ่อก็เป็นแค่ช่างปูน คุณแม่เป็นช่างไม้ เรามีชีวิตที่ค่อนข้าง เรียกได้ว่าอยู่ในสลัมมาตลอด ในบ้านที่เป็นสังกะสี เราจะไม่มีบ้านเป็นของตัวเอง ถ้าไซด์งานนี้ก่อสร้างเสร็จบ้านที่เป็นสังกะสีก็จะถูกรื้อออกแล้วย้ายไปอยู่ไซด์งานใหม่ ชีวิตตอนเด็กๆ คือ ปากกัดตีนถีบมากๆ ต้องช่วยพ่อแม่ทำงานทุกอย่าง เห็นพ่อแม่เหนื่อยๆ ก็ช่วยทุกอย่าง ตุ๊กตาเก็บตะปู ถุงปูนขายตั้งแต่อายุ 6-7 ขวบ พอโตขึ้นมาหน่อยก็ช่วยพ่อแม่ทำงานก่อสร้าง พอเราโตขึ้นเรื่อยๆเราก็เริ่มที่จะหันไปทำงานอย่างอื่น เก็บผักบุ้งไปขายที่ตลาด ทำบัวลอยขาย รับปักชุดแต่งงาน เก็บถุงขาย เป็นเด็กรับจ้างกดน้ำ ล้างจาน ตักส้วม เราต้องทำเยอะขนาดนี้เพราะเงินที่พ่อแม่หามาได้น้อยมาก เราจะเลยต้องช่วย ไม่อย่างนั้น เราคงไม่มีอะไรกินเข้าไป เนื่องจากภาพความประทับใจที่เราเคยเห็นแม่เอาข้าวบูดไปตากแดให้กลิ่นบูดหมด แล้วเอามาต้มเป็นข้าวต้ม แล้วเอาเนื้อให้ตุ๊กตากับพ่อกิน แล้วแม่กินแต่น้ำข้าวต้ม มันเป็นความรู้สึกว่าเราทำไมต้องขนาดนี้ ทำให้เรารู้สึกว่าเราต้องทำงานช่วยพ่อแม่ทำงานเพื่อให้ได้เงินมาแบ่งเบาภาระท่าน
ตอนนี้คุณตุ๊กตาทำอะไรอยู่ เล่าให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ ?
ตอนนี้เป็นพิธีกร แล้วก็มีผลิตภัณฑ์เป็นของตัวเองในนามของแบรนด์ บุญรอด เป็นผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าทั้งหมด รวมไปถึงการเปิดสอนศาสตร์ยกหน้า ด้วยการนวดกดจุดรีดน้ำเหลืองและการเคาะหน้า
ผลงานล่าสุดตอนนี้คืออะไรคะ ?
ตอนนี้เป็นพิธีกรรายการเรื่องเล่าจากชุมชนช่อง 11 ออกอากาศทุกวันเสาร์ 16.30 น และรายการคลับเลิฟช่อง world entertainment PSI 42 ทุกวันจันทร์- ศุกร์ 19.00 น. นี่คือผลงานล่าสุดที่ออกอากาศทางทีวี และงานตอนนี้ที่ทำอยู่ด้วยก็คือ การขายผลิตภัณฑ์ของตัวเอง และช่วยให้คนมีอาชีพด้วยการเปิดสอนศาสตร์ยกหน้า ด้วยการรีดน้ำเหลืองกดจุด และการเคาะหน้าค่ะ
แล้วผลงานที่ภาคภูมิใจมากที่สุดที่ผ่านมาละคะ ?
ต้องบอกว่าผลงานที่ภูมิใจที่สุดคือ เป็นเจ้าของรายการและเป็นรายการที่ตุ๊กตาผลิตเอง ชื่อ รายการโหรพลิกชีวิต เป็นรายการที่ ช่วยเหลือคนที่ลำบาก หมายความว่า ตุ๊กตาทำรายการเอง ใช้ทุนตัวเอง ออกอากาศทางช่องดาวเทียม เพื่อสร้างกำลังใจให้คนที่ท้อแท้หมดหวัง ให้กำลังใจ โดยจะเลือกเคสในการช่วยเหลือ อย่างเช่น คนตาบอด แต่สามารถคลำแล้วขายก๋วยเตี๋ยวได้ หรือคนพิการขาขาดแต่ปีนต้นตาล ต้นมะพร้าว เก็บลูกมาขายได้ ตุ๊กตาก็จะเอาชีวิตของเค้าเหล่านั้นมาออกอากาศในรายการของตุ๊กตา ทุกวันจนครบ 1 เดือน พอครบแล้วก็จะเชิญแขกคนนั้นมาแล้วเราจะมอบอาชีพตามที่เค้าต้องการให้เค้า อย่างเช่น อยากขายก๋วยเตี๋ยวเราก็มอบรถพร้อมอุปกรณ์ขายก๋วยเตี๋ยวรวมทั้งเงินทุนอีกก้อนหนึ่งให้เค้า เป็นรายการที่ภูมิใจที่สุดที่ทำมา เพราะได้ช่วยเหลือสังคมและคนที่ลำบาก และเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้คนที่ลำบาก หมดกำลังใจ อยากตาย ทำให้คนเหล่านั้นมีกำลังใจฮึดสู้และไม่ยอมแพ้
ยังคงไม่ทิ้งวงการบันเทิงไปใช่ไหมคะ ?
ยังคงไม่ทิ้งค่ะ ยังทำงานในวงการบันเทิงอยู่ ตอนนี้ก็เป็นพิธีกร และก็กำลังจะมีผลงานละครเร็วๆ นี้ หากว่างจากตรงนี้ก็จะไปรับงานละคร ไม่ทิ้งวงการแน่นอนค่ะ
สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการอยู่ในวงการบันเทิงให้ได้อย่างมั่นคงคืออะไรคะ ?
ตลอดเวลา 22 ย่าง 23 ปี ที่ตุ๊กตาอยู่ในวงการบันเทิงมา สิ่งที่ทำให้เราอยู่ได้อย่างมั่นคง คือ การรักษาเวลา เราจะไม่สาย เราจะไปก่อนเริ่มงาน อีกอย่างคือ ความซื่อสัตย์ รวมไปถึงการอ่อนน้อมถ่อมตัว เจอใครก็ไหว้ ไม่ว่าจะเด็กกว่าหรือผู้ใหญ่กว่าโดยไม่สนใจว่าเค้าจะรับไหว้หรือไม่ แต่เราไหว้ด้วยจิตใจที่เราเคารพและอยากไหว้
ตอนนี้คุณตุ๊กตามองว่าได้ไปถึงเป้าหมายสูงสุดของอาชีพนักแสดงในวงการบันเทิงรึยังคะ?
สำหรับตุ๊กตาการที่ได้เข้ามาในวงการบันเทิง ได้เป็นพิธีกร ก็เป็นสิ่งที่มาได้ไกลเกินคาด จากเด็กคนหนึ่งที่คิดแค่ว่าอยากทำงานหาเงินเพื่อเลี้ยงพ่อแม่ แต่ ณ วันนี้เราอยู่ในวงการบันเทิงมาได้อย่างยาวนานและก็ยังอยู่ต่อมาได้ เราถือว่านี่ก็เป็นเป้าหมายสูงสุดของอาชีพนักแสดงในวงการบันเทิงแล้วค่ะ
มีความคิดเห็นยังไงต่อวงการบันเทิงไทยขณะนี้
ต้องบอกว่ารู้สึกแย่ค่ะ เพราะว่านักแสดงหลายๆคนที่ก้าวเข้ามาสู่วงการบันเทิงไม่ได้ใช้ความสามารถแต่หลายคนเข้ามาด้วยพ่อแม่รวย เส้นใหญ่ ไม่ใช่ด้วยความสามารถเหมือนในอดีต ต้องใช้ความสามารถจริงๆ มีการประกวด ต้องทำมันให้ดีที่สุด มันเป็นหนึ่งอาชีพ อาชีพที่เรียกว่านักแสดง แต่เดี๋ยวนี้ต้องการเข้ามาเพราะแค่อยากมีชื่อเสียง แล้วเอาไปต่อยอดอย่างอื่น โดยที่หลายคนพอเข้ามาก็ไม่ได้เคารพในอาชีพ พอเข้ามาได้แป็บๆก็ไป หลายคนอยากดัง เลยรู้สึกว่าวงการบันเทิงปัจจุบันคนเข้ามาฉกฉวยโอกาส แต่ไม่ได้เคารพในอาชีพนี้น่ะค่ะ
ในส่วนของเป้าหมายชีวิตส่วนตัวล่ะคะ ?
จริงๆ แล้วหวังว่าสักวันหนึ่ง อยากจะมีไร่เป็นของตัวเอง อยากไปมีชีวิตพอเพียงแบบที่ในหลวงสอน เพราะยิ่งอยู่ในวงการมากๆ ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเราควรออกไปใช้ชีวิตอย่างที่เราอยากให้ เราไม่เคยลืมกำพืดของตัวเอง เรามาจากดิน เราก็ต้องกลับไปสู่ดิน เพราะฉะนั้นเป้าหมายคือ อยากไปทำเกษตรพอเพียง อยากไปปลูกต้นไม้ อยากไปทำสวนทำไร่ นั่นคือ เป้าหมายสูงสุดในชีวิตที่อยากทำค่ะ
เคยลังเล หรือ ไม่เชื่อในสิ่งที่ทำบ้างไหมคะ ?
ไม่เคยลังเลค่ะ และเชื่อในสิ่งที่ทำเสมอ ไม่ว่าสิ่งนั้นจะประสบความสำเร็จหรือไม่ แต่อย่างน้อยเกิดมาแล้วครั้งนึง ถ้าสิ่งที่ทำแล้วไม่ได้ผิดกฎหมาย ไมได้ทำให้ใครเดือดร้อน ตุ๊กตาจะไม่ลังเลในสิ่งที่ทำและจะทำให้ดีที่สุด ไม่ว่าสิ่งที่ทำจะประสบความสำเร็จหรือไม่ก็ตาม
ธุรกิจ “เคาะหน้า” เป็นยังไงบ้างคะ ?
จริงๆ แล้วไม่อยากเรียกว่าเป็นธุรกิจ เพราะเป็นสิ่งที่ทดลองและพิสูจน์ด้วยตนเองแล้วว่าทำให้หน้าเล็ก กระชับ เรียว ไม่มีริ้วรอย เหมือนเป็นการออกกำลังกายให้กับหน้า ก็เลยเชื่อมั่นที่จะเปิดสอนเพื่อให้คนมีอาชีพด้วยสองมือเปล่า คนที่มาเรียนกับตุ๊กตาก็ไม่ต้องเปิดหน้าร้าน สามารถไปรับนวดหน้าที่บ้านได้ เป็นอาชีพที่ไม่ต้องมีต้นทุนอะไร ดังนั้นถามว่าตอนนี้เป็นยังไงบ้าง ก็เปิดสอนมาเกือบ 2 ปี 14 รุ่น ได้รับการตอบรับดีพอสมควร หลายคนก็ไม่ทำจริงและประสบความสำเร็จตรงนี้ก็ทำให้เราชื่นใจและก็คงจะสอนต่อไป
อะไรเป็นแรงบันดาลใจในการริเริ่มธุรกิจตัวนี้หรือคะ ?
ไม่อยากพูดว่าเป็นธุรกิจ จริงๆแรงบันดาลใจมันมาจากการทำรายการโหรพลิกชีวิต เราเห็นหลายๆคนทำอาชีพต่างๆ มา ก็เลยมานั่งคิดว่าจะมีอาชีพไหนที่จะลงทุนน้อยที่สุด แล้วเราก็ได้ศึกษาศาสตร์เคาะหน้า แล้วนำมาพิสูจน์ด้วยตัวเองจนเห็นผลลัพธ์ที่ดีมากจนเห็นได้ชัด ทำให้เรารู้สึกว่าศาสตร์มันดี จึงอยากถ่ายทอดให้คนอื่นนำไปทำเป็นอาชีพด้วยสองมือเปล่าต่อไป
เจออุปสรรคใหญ่ๆ ในการทำธุรกิจบ้างไหมคะ ?
เจอค่ะ คือ เรื่องของการทุจริต ทุกองค์กรต้องเจอปัญหาอยู่แล้ว จะต้องมีคนสร้างปัญหาให้เรา แต่ก็แค่พอมีปัญหาก็แก้กันไป อยากให้คิดว่ามันคือ บททดสอบมากกว่าที่จะเป็นปัญหา
แล้วฝ่าฟันอุปสรรคในการทำงานอย่างไรบ้างคะ ?
ปัญหาเกิดตรงไหนแก้ตรงนั้น แก้ไปทีละนิด แล้วยอมรับความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้น แล้วแก้ให้ตรงจุด แค่นี้ก็จะสามารถผ่าฟันอุปสรรคนั้นไปได้ค่ะ
แล้วในวันว่างคุณตุ๊กตามักจะทำอะไรคะ ?
ส่วนมากจะชอบไปปฎิบัติธรรม ถือศีลตามวัดต่างๆ แล้วก็ชอบศึกษาเรื่องของต้นไม่ ดูที่ เรียน อบรมต่างๆ เรื่องต้นไม้ ดิน น้ำ เพราะชอบตรงนี้ เพราะใฝ่ฝันว่าวันหนึ่งอยากจะเป็นเกษตรกรค่ะ
ตอนนี้มีครอบครัวหรือยัง แอบถามนิดนึง ?
ตุ๊กตาไม่ได้แต่งงานนะคะ แต่ก็มีคนที่รักและก็มีแฟนแล้ว
ถ้าวันนี้คุณตุ๊กตาไม่ได้เป็นนักแสดง นักจัดรายการ หรือ เจ้าของธุรกิจแล้ว คุณตุ๊กตาอยากทำ/ เป็นอะไรคะ ?
แน่นอนว่าอยากเป็นเกษตรกร ตุ๊กตาเชื่อมั่นสิ่งที่ในหลวง ร 9 ว่าเราไม่มีวันอดตาย หากเราไม่ทำอะไรที่เป็นธุรกิจการค้ามากเกินไป แค่นี้ชีวิตก็จะมีความสุขแล้ว
ช่วยฝากอะไรถึงคนรุ่นใหม่หน่อยค่ะ ?
อยากให้คนรุ่นใหม่ไม่ฟุ้งเฟ้อ เห็นคุณค่าของการใช้เงิน เห็นความสำคัญกับพ่อแม่มากที่สุด ใส่ใจครอบครับ มีน้ำใจ ประเทศไทยของเราก็จะไม่เกิดปัญหา ทะเลาะเบาะแว้งกัน เพราะฉะนั้นก็อยากให้คนรุ่นใหม่หันมาใส่ใจกัน เราก็จะอยู่กันอย่างสงบและมีความสุขค่ะ
1,244,825 , 5
คุณตุ๊กตาสวยมาก